การเขียนข้อสอบวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย
บลูม (Bloom) และคณะ
ได้จำแนกจุดประสงค์ทางการศึกษาออกเป็น 3 ด้าน
พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย ได้แบ่งย่อยเป็น 6 ด้าน
และแต่ละด้านได้แบ่งเป็นพฤติกรรมย่อย ๆ รวมทั้งหมด 21 พฤติกรรม
พฤติกรรมทั้ง 6 ด้าน มีดังนี้
1. ด้านความรู้ความจำ
(Knowledge)
ความรู้ความจำ
หมายถึง ความสามารถของสมองที่เก็บสะสมเรื่องราวต่าง ๆ หรือประสบการณ์ทั้งปวง ที่ตนได้รับรู้มา
1.1 ความรู้ในเนื้อเรื่อง หมายถึง การถามเกี่ยวกับเรื่องราวหรือเนื้อหาสาระตามท้องเรื่องนั้น
1.1.1 ความรู้เกี่ยวกับศัพท์และนิยาม หมายถึง การถามเกี่ยวกับคำศัพท์ นิยามคำแปล ความหมาย ชื่อ อักษรย่อ สัญลักษณ์ เครื่องหมาย รูปภาพ
1.1 ความรู้ในเนื้อเรื่อง หมายถึง การถามเกี่ยวกับเรื่องราวหรือเนื้อหาสาระตามท้องเรื่องนั้น
1.1.1 ความรู้เกี่ยวกับศัพท์และนิยาม หมายถึง การถามเกี่ยวกับคำศัพท์ นิยามคำแปล ความหมาย ชื่อ อักษรย่อ สัญลักษณ์ เครื่องหมาย รูปภาพ
ตัวอย่าง : เครื่องหมาย ! เรียกว่าอะไร ?
ก. ปรัศนี ข. บุพสัญญา ค. อัศเจรีย์ ง. อัญประกาศ
1.1.2 ความรู้เกี่ยวกับกฎและความจริง หมายถึง การถามเกี่ยวกับ กฎ สูตร
ความจริงตามท้องเรื่อง ขนาด ทิศทาง ปริมาณ เวลา คุณสมบัติ ระยะทาง เปรียบเทียบ
สาเหตุ
ตัวอย่าง : ดื่มน้ำชนิดใดปลอดภัยที่สุด ?
ก. น้ำต้ม ข. น้ำประปา ค. น้ำฝน ง. น้ำบาดาล
1.2 ความรู้ในวิธีดำเนินการ
หมายถึง การถามเกี่ยวกับขั้นตอนของกิจกรรมวิธีดำเนินเรื่องราว วิธีประพฤติปฏิบัติ แยกเป็น 5ประเภทคือ
1.2.1 ความรู้เกี่ยวกับระเบียบแบบแผน หมายถึง การถามเกี่ยวกับแบบฟอร์ม ระเบียบ แบบแผน วัฒนธรรม ประเพณี การใช้คำสุภาพ คำราชาศัพท์
1.2.1 ความรู้เกี่ยวกับระเบียบแบบแผน หมายถึง การถามเกี่ยวกับแบบฟอร์ม ระเบียบ แบบแผน วัฒนธรรม ประเพณี การใช้คำสุภาพ คำราชาศัพท์
ตัวอย่าง : การไว้ทุกข์ของคนไทยใช้เสื้อผ้าสีอะไร ?
ก. สีดำ ข. สีเขียว ค. สีขาว ง.สีม่วง
1.2.2 ความรู้เกี่ยวกับลำดับขั้นและแนวโน้ม หมายถึง
การถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน -หลัง ข้อคำถามแนวโน้มส่วนใหญ่ใช้คำว่า มักจะ
เพราะเป็นการคาดคะเนเหตุการณ์
ตัวอย่าง : ในการช่วยคนจมน้ำควรทำสิ่งใดก่อน ?
ก. ล้วงคอ ข. ตามแพทย์ ค. ผายปอด ง. กดท้อง
1.2.3 ความรู้เกี่ยวกับการจัดประเภท หมายถึง การถามให้จำแนก แจกแจง จัดประเภท
หรือถามในรูปปฏิเสธ เช่น ไม่เข้าพวก ไม่เข้ากลุ่ม
ตัวอย่าง : โลกเป็นประเภทกับดาวอะไร ?
ก. ดวงอาทิตย์ ข. ดาวพุธ ค. ดาวศุกร์ ง.ดาวพฤหัสบดี
1.2.4 ความรู้เกี่ยวกับเกณฑ์ หมายถึง
ข้อกำหนดที่ยึดเป็นหลักแล้วนำไปเปรียบเทียบกับสิ่งต่าง ๆ ถามเอกลักษณ์
ตัวอย่าง : เชื้อเพลิงมีลักษณะอย่างไร ?
ก. ราคาถูก ข. ติดไฟง่าย ค. ให้ความร้อนสูง ง.ติดไฟได้นาน
1.2.5 ความรู้เกี่ยวกับวิธีการ หมายถึง การถามวิธีปฏิบัติ การทำกิจกรรมขั้นตอนการทำงาน
เช่น ปฏิบัติอย่างไร ควรทำโดยวิธีใดจึงจะมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่าง : วัตถุใดไม่สามารถ หาปริมาตรโดยวิธีแทนที่น้ำ ?
ก. สารส้ม ข. ลูกแก้ว ค. ก้อนหิน ง.กำมะถัน
1.3 ความรู้รวบยอดในเนื้อเรื่อง
หมายถึง ความสามารถในการค้นหาหลักการหรือหัวใจของเรื่อง
1.3.1 ความรู้เกี่ยวกับหลักวิชาและการขยาย หมายถึง หัวใจของเรื่องราวที่เกิดจากหลาย ๆ ความคิดรวบยอด มารวมกัน การขยายเป็นการขยายความต่อออกไปจากสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่รู้มา หรือสรุปออกจากนอกเรื่องนั้น ๆ
1.3.1 ความรู้เกี่ยวกับหลักวิชาและการขยาย หมายถึง หัวใจของเรื่องราวที่เกิดจากหลาย ๆ ความคิดรวบยอด มารวมกัน การขยายเป็นการขยายความต่อออกไปจากสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่รู้มา หรือสรุปออกจากนอกเรื่องนั้น ๆ
ตัวอย่าง : เช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ เป็นเรื่องของอะไร ?
ก. การเกิดฤดูกาล ข. การโคจรรอบดวงอาทิตย์ ค. การหมุนของโลก ง. เวลา
1.3.2
ความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีและโครงสร้าง หมายถึง ถามเกี่ยวกับ คติ
และหลักการ ของหลายเนื้อหาที่ไม่สัมพันธ์กัน
ตัวอย่าง : นิราศ เป็นบทกลอนที่แต่งในอารมณ์ใด ?
ก. ดีใจ ข. เสียใจ ค. สนุกสนาน ง.โกรธแค้น
2.ด้านความเข้าใจ
(Comprehension)
หมายถึง
ความสามารถในการนำความรู้ความจำไปดัดแปลงปรับปรุง เพื่อให้สามารถจับใจความ
หรือเปรียบเทียบ ย่นย่อเรื่องราว ความคิด ข้อเท็จจริงต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 3 ด้านมีรายละเอียด ดังนี้
2.1 การแปลความ หมายถึง ความสามารถแปลสิ่งซึ่งอยู่ในระดับหนึ่งไปยังอีกระดับหนึ่งได้ สุภาษิต สำนวน โวหาร
2.1 การแปลความ หมายถึง ความสามารถแปลสิ่งซึ่งอยู่ในระดับหนึ่งไปยังอีกระดับหนึ่งได้ สุภาษิต สำนวน โวหาร
ตัวอย่าง : เหงือกปลาทำหน้าที่คล้ายกับอวัยวะส่วนใดของคน ?
ก. หู ข. ฟัน ค. ปาก ง. จมูก
2.2 การตีความ หมายถึง
การจับใจความสำคัญของเรื่องหรือการเอาเรื่องราวเดิมมาคิดในแง่ใหม่
ตัวอย่าง : เหตุใดต้นไม้เล็กที่ขึ้นอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่จึงมีลำต้นสูวชะลูด ?
ก. เพื่อให้ได้แสงแดด ข. เพื่อให้ได้อากาศ ค. เพื่อให้ทรงตัวเร็ว ง.เพื่อให้แข็งแรงเท่าต้นใหญ่
2.3 การขยายความ หมายถึง การคาดคะเนหรือคาดหวังว่า จะมีสิ่งนั้นเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในอดีต
หรืออนาคต โดยอาศัยแนวโน้มที่ทราบมาเป็นหลัก
ตัวอย่าง : ถ้าเด็ดใบเลี้ยงของพืชที่เพิ่งงอกจะเกิดผลอย่างไร ?
ก. พืชโตช้า ข. พืชจะตาย ค. พืชจะเหี่ยวเฉา ง.ต้นจะเเคระแกร็น
3.ด้านการนำไปใช้
(Application)
หมายถึง ความสามารถในการนำความรู้ ความเข้าใจในเรื่องราวใด
ๆ ไปใช้ในสถานการณ์จริงในชีวิตประจำวันหรือในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน
ตัวอย่าง : คนที่หน้าตาซีดเซียวควรให้รับประทานอาหารอะไร ?
ก. นมสด ข. ตับไก่ ค. ผักบุ้ง ง. เนื้อหมู
4.ด้านการวิเคราะห์
(Analysis)
หมายถึง
การแยกแยะพิจารณาดูรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ หรือเรื่องราวต่าง ๆ
ว่ามีชิ้นส่วนใดสำคัญที่สุด เป็นการใช้วิจารณญาณเพื่อไตร่ตรอง
4.1 การวิเคราะห์ ความสำคัญ หมายถึง การพิจารณาหรือจำแนกว่า ชิ้นใด ส่วนใด เรื่องใด ตอนใด สำคัญที่สุด หรือหาจุดเด่น จุดประสงค์สำคัญ
4.1 การวิเคราะห์ ความสำคัญ หมายถึง การพิจารณาหรือจำแนกว่า ชิ้นใด ส่วนใด เรื่องใด ตอนใด สำคัญที่สุด หรือหาจุดเด่น จุดประสงค์สำคัญ
ตัวอย่าง : นิ้วมือนิ้วใดสำคัญมากที่สุด ?
ก.นิ้วหัวแม่มือ ข.นิ้วชี้ ค.นิ้วกลาง ง. นิ้นาง
4.2 การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ หมายถึง การค้นหาความเกี่ยวข้องระหว่างคุณลักษณะสำคัญของเรื่องราวหรือสิ่งต่าง
ๆ ว่าสองชิ้นส่วนใดสัมพันธ์กัน
ตัวอย่าง : ผึ้งที่เฝ้ารังป้องกันภัยต่างๆ เปรียบได้กับคนทำงานอาชีพอะไร ?
ก. ยาม ข. ทหาร ค. นักสืบ ง.ตำรวจ
4.3 การวิเคราะห์หลักการ หมายถึง การให้พิจารณาดูชิ้นส่วน หรือส่วนปลีกย่อยต่าง
ๆ ว่า ทำงานหรือเกาะยึดกันได้ หรือคงสภาพเช่นนั้นได้เพราะใช้หลักการใดเป็นแกนกลาง
ตัวอย่าง : ปากทำงานร่วมกับอวัยวะใด ?
ก. ลิ้น ข. เพดาน ค. ฟัน ง.หลอดลม
5.ด้านการสังเคราะห์
(Synthesis)
หมายถึง ความสามารถในการผสมผสานเรื่องราวหรือสิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเป็นเรื่องราวใหม่ แบ่งออกเป็น 3 ด้าน ดังนี้
5.1 การสังเคราะห์ข้อความ หมายถึง การนำเอาความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ มาผสมหรือปรุงแต่งขึ้นใหม่ เกิดเป็นข้อความหรือเรื่องราวใหม่ ๆ เช่น การเขียนเรียงความ
5.1 การสังเคราะห์ข้อความ หมายถึง การนำเอาความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ มาผสมหรือปรุงแต่งขึ้นใหม่ เกิดเป็นข้อความหรือเรื่องราวใหม่ ๆ เช่น การเขียนเรียงความ
ตัวอย่าง : เรื่องพระเวชสันดรเป็นตัวอย่างของความดีในเรื่องใด น้อยที่สุด ?
ก. ความเพียร ข. ความเสียสละ ค. ความกตัญญู ง.ความเมตตากรุณา
5.2 การสังเคราะห์แผนงาน หมายถึง เป็นการวัดความสามารถในการเขียนโครง
การ แผนปฏิบัติงาน
การ แผนปฏิบัติงาน
ตัวอย่าง : คำใด ไม่เกี่ยวข้อง กับการวางแผนงาน ?
ก. ควรจะ ข. มุ่งหมาย ค. คาดคะเน ง.ฉับพลัน
5.3 การสังเคราะห์ ความสัมพันธ์ หมายถึง การเอาความสำคัญและหลักการต่าง ๆ
มาผสมให้เป็นเรื่องเดียวกัน ทำให้เกิดเป็นสิ่งสำเร็จหน่วยใหม่ ที่มีความสัมพันธ์แปลกไปจากเดิม
ตัวอย่าง : คนที่ไม่ลักขโมยเป็นคนดี เเต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นเขาจะต้องประพฤติอะไรอีกย่างหนึ่ง ?
ก. ไม่โลภมาก ข. อาชีพสุจริต ค. มีเมตตากรุณา ง.มีความซื่อสัตย์
6.ด้านการประเมินค่า
(Evaluation)
หมายถึง การวินิจฉัย หรือตีราคา เรื่องราว
ความคิด เหตุการณ์ต่าง ๆ โดยสรุปเป็นคุณค่าว่า ดี-เลว
6.1 การประเมินค่าโดยอาศัยข้อเท็จจริงภายใน หมายถึง การประเมินค่าโดยใช้ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ตามท้องเรื่อง หรือตามสถานการณ์นั้น ๆ
6.1 การประเมินค่าโดยอาศัยข้อเท็จจริงภายใน หมายถึง การประเมินค่าโดยใช้ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ตามท้องเรื่อง หรือตามสถานการณ์นั้น ๆ
ตัวอย่าง : จากเรื่องรามเกียรติ์ พิเภกเป็นบุคคลอย่างไร ?
ก. ทรยศต่อทศกัณฐ์ ข. เป็นไส้ศึกให้กับทศกัณฐ์ ค. ต้องการเป็นใหญ่ในลงกา
ง.เป็นประโยชน์ต่อพระราม
6.2 การประเมินค่า โดยอาศัยเกณฑ์ภายนอก หมายถึง
การประเมินค่าโดยใช้เกณฑ์จากสิ่งภายนอกเรื่องราวนั้น ๆ เป็นหลักในการพิจารณาตัดสิน
ตัวอย่าง : ตามประเพณ๊ไทย ถือว่านางวันทองเป็นคนดีหรือไม่ ?
ก. ดี เพราะรักสามีทั้งสองคน
ข. ดี เพราะเมื่อตายเเล้วยังเป็นห่วงลูก
ค.ไม่ดี เพราะหูเบาเชื่อคนง่าย
ง.ไม่ดี เพราะมีสามีสองคน
ข. ดี เพราะเมื่อตายเเล้วยังเป็นห่วงลูก
ค.ไม่ดี เพราะหูเบาเชื่อคนง่าย
ง.ไม่ดี เพราะมีสามีสองคน
น่าจะมีเฉลยด้วยเนอะ
ตอบลบ